ข่าว: SMF - Just Installed!
 
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
+  กระดานธรรมะ
|-+  กระดานสนทนาธรรม
| |-+  ชี้แจงข้อธรรม
| | |-+  ปัญญาวิมุติ ฉลาดกว่า เจโตวิมุติ ?
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ปัญญาวิมุติ ฉลาดกว่า เจโตวิมุติ ?  (อ่าน 4646 ครั้ง)
zen
Administrator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 351


« เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2008, 04:36:00 PM »

          บางคนจะเข้าใจต่อๆกันมาว่า ผู้ที่สำเร็จปัญญาวิมุติ คือผู้ที่มีปัญญามากกว่า หรือมีนิสัยไปในทางปัญญา มากกว่าผู้ที่บรรลุโดยเจโตวิมุติ บ้างก็ว่า เจโตวิมุติ เหมาะแก่ผู้มีจริตนิสัยไปทางสมถะ ซึ่งที่จริงแล้ว ไม่ได้เกี่ยวกับนิสัย วิธีการเจริญกรรมฐาน หรือปัญญาเลย เพราะผู้ที่จะบรรลุพระนิพพานได้นั้น จะต้องบรรลุปัญญาเฉกเช่นเดียวกัน ดังที่พระพุทธองค์ได้ตรัสชอบไว้แล้วในพระวินัยปิฏกว่า

"ทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ ไม่มีอาสวะเพราะสิ้นอาสวะ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ด้วยตนเองในปัจจุบันนี้แหละเข้าถึงอยู่"

ความหมายว่า ทั้งสองอย่างนั้น ก็ล้วนสิ้นอาสวะ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ทั้งคู่  ดังนั้น ปัญญา ไม่ใช่เครื่องจำแนกความแตกต่างระหว่าง เจโตวิมุติ และปัญญาวิมุติ อย่างที่หลายคนเข้าใจเลย โดยแท้แล้ว เหตุที่มีบุคคลบรรลุโดยเจโตวิมุต และปัญญาวิมุตินั้น เป็นเพราะอำนาจแห่งอินทรีย์ที่แตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคลต่างหาก ดังเช่นข้อความตอนหนึ่งจากพระไตรปิฏก ดังนี้




พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๓  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๕
มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์

 
๔. มหามาลุงโกฺยวาทสูตร
ทรงโปรดพระมาลุงกยะและพระอานนท์
โอรัมภาคิยสังโยชน์ ๕


            [๑๕๙] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ถ้ามรรคนี้ ปฏิปทานี้ ย่อมเป็นไปเพื่อละโอรัมภาคิย*สังโยชน์ ๕ เมื่อเป็นอย่างนั้น เพราะเหตุไร ภิกษุบางพวกในพระศาสนานี้ จึงเป็นเจโตวิมุติ บางพวกเป็นปัญญาวิมุติเล่า.
             ดูกรอานนท์ ในเรื่องนี้ เรากล่าวความต่างกันแห่งอินทรีย์ ของภิกษุเหล่านั้น.
             พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้แล้ว ท่านพระอานนท์มีใจยินดีชื่นชมพระภาษิตของพระผู้มีพระภาค ดังนี้แล.
                                     จบ มหามาลุงโกฺยวาทสูตร ที่ ๔.

                          -----------------------------------------------------




          ดังนั้น การที่มีบุคคลบางจำพวก พยายามแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ถือพวก ชูธง ว่าอย่างไหนดีกว่ากัน มีปัญญามากกว่ากัน ง่ายกว่ากัน หรือเป็นทางลัดสั้นมากกว่าอีกฝ่าย นั้น เป็นเพียงพฤติกรรมของผู้ที่ยังไม่ทั่วถึงในธรรม และยังสุดโต่งอยู่ เท่านั้น ที่จริงแล้ว ในบรรดาท่านที่บรรลุโดยเจโตวิมุติ แต่ละท่าน ก็มิได้บรรลุโดยอุบายเดียวกัน หรือโดยสติปัฏฐานเดียวกัน และในบรรดาท่านที่บรรลุโดยปัญญาวิมุติ ก็เช่นเดียวกัน ดังนั้น มหาสติปัฏฐาน จึงเป็นข้อธรรมที่เป็นอนันตนัย กล่าวคือ อุบายที่บุคคลทั้งหลายจะเข้าถึงธรรมอันบริสุทธิ์ได้นั้น ไม่ซ้ำกัน ร้อยบุคคล ล้านบุคคล ก็ร้อยวิธี ล้านวิธี ไม่ซ้ำกัน อันเป็นวิสัยของพระสัพพัญญูพุทธเจ้าเท่านั้น ที่จะกำหนดรู้ได้ทั่วถึงทั้งหมด ไม่ใช่วิสัยของพระสาวก ที่จะกำหนดรู้ได้ทั้งหมด


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 14, 2008, 05:26:12 PM โดย zen » บันทึกการเข้า

จริงอยู่ว่า ผู้บรรลุนิพพาน ย่อมรู้ความเป็นไปของโลก ว่า เป็นเช่นนั้นเอง
แต่ พระนิพพาน ไม่ใช่ธรรมที่เป็นไปเอง หรือเกิดขึ้นเอง หรือไม่มีเจตนา
แท้จริงแล้ว พระนิพพาน มีได้เพราะกำหนด มีได้เพราะเจตนา ในอนัตตา
ดังนี้ ผู้สำคัญว่า นิพพาน จะมีได้เพราะไม่กำหนด หรือเป็นไปเอง จะไม่รู้พระนิพพานธรรมได้เลย
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.14 | SMF © 2006-2008, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.04 วินาที กับ 18 คำสั่ง