ข่าว: SMF - Just Installed!
 
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
หน้า: [1] 2 3 ... 10

 1 
 เมื่อ: มกราคม 19, 2016, 08:36:53 PM 
เริ่มโดย wisarn - กระทู้ล่าสุด โดย wisarn


== อุทานธรรม ท่านเว่ยหล่าง ==


“แหม! ใครจะไปคิดว่าจิตเดิมแท้ (Essence of Mind) นั้นเป็นของ บริสุทธิ์ อย่างบริสุทธิ์แท้จริง! ใครจะไปคิดว่าจิตเดิมแท้นั้นเป็นอิสระ ไม่อยู่ภายใต้อำนาจความ ต้องเป็นอยู่ หรือภายใต้ความดับสูญ อย่างอิสระแท้จริง! ใครจะไปคิดว่าจิตเดิมแท้นั้นเป็นสิ่งที่มีความสมบูรณ์อยู่ในตัวมันเอง อย่างสมบูรณ์แท้จริง! ใครจะไปคิดว่าจิตเดิมแท้นั้นเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือความเปลี่ยนแปลง อย่างนอกเหนือแท้จริง! ใครจะไปคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ปรากฏออกมานี้ ไหลเทออกมาจาก ตัวจิตเดิมแท้!”


เว่ยหล่าง (หรือฮุยเล้ง หรือฮุยเหน็ง: ญี่ปุ่นเรียก อีโน หรือเยโน ค.ศ.๖๓๘-๗๑๓)

ท่านเว่ยหล่างหรือฮุยเหน็ง เป็นพระสังฆปรินายกแห่งพุทธศาสนาอย่างเซน องค์ที่ ๖ (สายจีน) ท่านกำพร้าบิดาตั้งแต่ยังเยาว์ วันหนึ่งขณะรุ่นหนุ่ม ได้หาบฟืนไปขายในตลาดเมืองกวางเจา (แคนตอน) ก็ได้ยินลูกศิษย์ของ พระสังฆปรินายกองค์ที่ ๕ กำลังสาธยายวัชรปรัชญาปารมิตาสูตรอยู่. พอ ได้ยินข้อความแห่งพระสูตรนั้นเท่านั้น ใจของท่านก็ลุกโพลงสว่างไสวในพุทธธรรม ทันที! ท่านจึงเดินทางไปขอศึกษาเซนจากอาจารย์หว่างหยั่น พระสังฆปรินายก องค์ที่ ๕ ณ วัดตุงซั่น ตำบลวองมุย เมืองคีเจา ท่านเว่ยหล่างได้ไปอยู่ ที่วัดนั้นโดยทำหน้าที่เป็นคนตำข้าวในโรงครัวของวัดอยู่เป็นเวลาหลายปี

วันหนึ่งท่านอาจารย์หว่างหยั่นได้ขอให้ศิษย์ทุกคนเขียนโศลกว่าด้วย เรื่องจิตเดิมแท้ โดยกล่าวว่าถ้าผู้ใดเข้าใจได้ถูกต้องว่าจิตเดิมแท้นั้นเป็นอย่างไร ผู้นั้นจะได้รับมอบผ้ากาสาวพัสตร์ (อันเป็นเครื่องหมายตำแหน่งพระสังฆปรินายก) พร้อมทั้งธรรมะ (อันเป็นคำสอนเร้นลับของนิกายเซน) ท่านชินเชา ผู้เป็นหัวหน้าศิษย์ ได้แต่งโศลกว่า,

"กายของเราคือต้นโพธิ
ใจของเราคือกระจกอันใส
เราเช็ดมันด้วยความระมัดระวังทุกๆ ชั่วโมง
และไม่ยอมให้ฝุ่นละอองจับ"

ท่ายเว่ยหล่างอ่านหนังสือไม่ออก แต่ให้เพื่อนศิษย์อ่านให้ฟัง ก็รู้ว่าผู้ แต่งโศลกนั้นยังไม่เห้นแจ้งในจิตเดิมแท้ ท่านจึงให้เสมียนแห่งตำบลกองเจาซึ่ง อยู่ในที่นั้นช่วยเขียนโศลกของท่านไว้ดังนี้

"ไม่มีต้นโพธิ์
ทั้งไม่มีกระจกเงาอันใสสะอาด
เมื่อทุกสิ่งว่างเปล่าแล้ว
ฝุ่นจะลงจับอะไร?"

คืนวันต่อมาอาจารย์หว่างหยั่น พระสังฆปรินายกองค์ที่ ๕ ได้เรียกท่าน เว่ยหล่างเข้าไปพบ และอธิบายข้อความอันลึกซึ้งในวัชรสูตรให้ฟัง พอถึงข้อ ที่ว่า "คนเราควรจะใช้จิตของตน ในวิถีทางที่มันจะเป็นอิสระได้จากเครื่อง ข้องทั้งหลาย" ทันใดนั้นท่านเว่ยหล่างก็ได้บรรลุการตรัสรู้ธรรมโดยสมบรูณ์ และได้เห็นชัดแจ้งว่า "ที่แท้ทุกๆ สิ่งในสากลโลกนี้ ก็คือตัวจิตเดิมแท้นั่นเอง มิใช่อื่นไกล" และท่านก็ได้อุทานขึ้นต่อหน้าอาจารย์ว่า

“แหม! ใครจะไปคิดว่าจิตเดิมแท้ (Essence of Mind) นั้นเป็นของ บริสุทธิ์ อย่างบริสุทธิ์แท้จริง! ใครจะไปคิดว่าจิตเดิมแท้นั้นเป็นอิสระ ไม่อยู่ภายใต้อำนาจความ ต้องเป็นอยู่ หรือภายใต้ความดับสูญ อย่างอิสระแท้จริง! ใครจะไปคิดว่าจิตเดิมแท้นั้นเป็นสิ่งที่มีความสมบูรณ์อยู่ในตัวมันเอง อย่างสมบูรณ์แท้จริง! ใครจะไปคิดว่าจิตเดิมแท้นั้นเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือความเปลี่ยนแปลง อย่างนอกเหนือแท้จริง! ใครจะไปคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ปรากฏออกมานี้ ไหลเทออกมาจาก ตัวจิตเดิมแท้!”

ซึ่งอาจารย์ก็ได้กล่าวต่อไปอีกว่า,

"สำหรับผู้ที่ไม่รู้จักจิตใจของตัวเองว่าคืออะไร ก็ป่วยการที่ผู้นั้นจะ ศึกษาพุทธศาสนา ตรงกันข้าม ถ้าผู้ใดรู้จักจิตใจของตนเองว่าเป็นอะไร และ เห็นด้วยปัญญาอย่างซึมซาบว่า ธรรมชาติแท้ของตนเองคืออะไรด้วยแล้ว ผู้นั้นคือวีรมนุษย์ (นายโรงโลก) คือครูของเทวดาและมนุษย์ คือ พุทธะ"

แล้วท่านเว่ยหล่างก็ได้รับมอบธรรมะ เป็นทายาทรับมอบคำสอนแห่ง นิกาย "ฉับพลัน" พร้อมทั้งบาตรและจีวร เป็นพระสังฆปรินายกแห่งพุทธ- ศาสนาอย่างเซน (สายจีน) องค์ที่ ๖ สืบต่อไปจากอาจารย์ของท่านนั่นเอง.

 2 
 เมื่อ: มกราคม 16, 2016, 09:20:00 AM 
เริ่มโดย wisarn - กระทู้ล่าสุด โดย wisarn


บัดนี้ หากพวกเธอได้ปฏิบัติ ในการรักษาจิตของพวกเธอให้ปราศจากพฤติการณ์เคลื่อนไหวใด ๆ อยู่ตลอดเวลา ทั้งเดิน ยืน นั่ง นอน ก็ดี ในการเพ่งจิตทั้งหมด เฉพาะต่อการที่จะไม่สร้างความคิดใด ๆ ขึ้น ต่อความไม่ยึดถือว่ามีของคู่ ต่อความไม่อิงอาศัยสิ่งอื่นใดในภายนอก หรือต่อความไม่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งใดก็ดี ในการปล่อยให้สิ่งทั้งปวงเป็นไปตามเรื่องตามราวของมันทั้งวัน ๆ ราวกะว่าเธอเจ็บหนักเกินไปกว่าที่จะไปเป็นห่วงด้วยได้ก็ดี และในการมีจิตของเธอเหมือนหินแท่งทึบ ที่ไม่มีรอยต้องอุดต้องซ่อมแล้ว

เมื่อนั้นแหละ ธรรมทั้งหลายจะซึมเข้าไปในความเข้าใจของเธอทะลุปรุโปร่งแล้วปรุโปร่งอีก และชั่วเวลาอีกเล็กน้อย เธอก็จะได้พบว่าตัวเองเป็นอิสระแล้วอย่างมั่นคง

เมื่อเป็นดังนั้น เธอจะได้พบเป็นครั้งแรกในชีวิตอันมากมายหลายชนิดของเธอว่า ปฏิกิริยาของเธอต่อปรากฏการณ์ต่าง ๆ ได้ลดลงและในที่สุดเธอจะได้ข้ามขึ้นเหนือโลกทั้งสาม และมหาชนจะได้กล่าวกันว่าพุทธะองค์หนึ่ง ได้ปรากฏขึ้นในโลกแล้ว

ความรู้อันบริสุทธิ์และปราศจากกิเลสย่อมแสดงโดยปริยายอยู่แล้วว่า เป็นการทำความสิ้นสุดให้แก่ความคิดและความฝันอันไหลเรื่อย ทั้งนี้เพราะว่า โดยทางนั้นเอง เธอได้หยุดสร้างกรรมอันนำไปสู่การเกิดใหม่ ไม่ว่าจะเกิดเป็นเทวดาหรือมนุษย์ หรือเป็นสัตว์ที่ทนทุกข์อยู่ในนรก

คราใดที่กรรมวิธีของจิตทุกชนิดหยุดลงแล้ว กรรมก็จะไม่ถูกสร้างขึ้นแม้แต่สักอนุภาคเดียว เมื่อเป็นดังนั้นแล้ว แม้ในชาตินี้ ใจและกายของเธอก็เป็นสิ่งที่เป็นอิสระแล้ว โดยสมบูรณ์

แม้สมมติว่าข้อนี้ยังไม่ให้ผลแก่เธอ ถึงกับปลดเปลื้องเธอจากการเกิดใหม่ได้ทันที อย่างน้อยที่สุดเธอก็ยังแน่ใจได้ว่า การเกิดใหม่นั้นจะเป็นไปในลักษณะที่เธอปรารถนาทุกประการ สูตรมีข้อความปรากฏอยู่ว่า “โพธิสัตว์ทั้งหลาย มีการเกิดใหม่ในรูปตามที่ตนปรารถนาทุกประการ”

การเกิดความรู้สึกซึมซาบได้ในเวลาชั่วกระพริบตาเดียว ว่าผู้กระทำและสิ่งที่ถูกกระทำ (จิตและวัตถุ) เป็นของสิ่งเดียวกัน นั่นแหละ จะนำไปสู่ความเข้าใจอันลึกซึ้งและลึกลับเหนือคำพูด และโดยความเข้าใจอันนี้เอง พวกเธอจะลืมตาต่อสัจจะของเซ็น


--- คำสอนของฮวงโป :บันทึกวาน-ลิง ---

 3 
 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2014, 05:39:20 AM 
เริ่มโดย zen - กระทู้ล่าสุด โดย zen
มนุษย์แต่ละคนก็เห็นปัญหาของชีวิตแตกต่างกันไป มากบ้างน้อยบ้าง แล้วสติปัญญา ประสพการณ์ ฯลฯ

ไม่ว่าจะสมหวัง หรือ ผิดหวัง น่าพอใจ หรือ ไม่น่าพอใจ สิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วก็เป็นความจริงส่วนหนึ่งของชีวิตทั้งสิ้น ไม่ว่าเราจะเห็นว่าเป็นปัญหาหรือไม่ก็ตาม

แท้จริงแล้ว ความเป็นจริงทั้งหลายในชีวิตมนุษย์นั้น ล้วนไม่ใช่สิ่งที่เป็นปัญหาด้วยตัวของมันเอง ที่เป็นปัญหาต่อตนเองอย่างแท้จริงก็คือ มนุษย์ มีปัญหาต่อความเป็นจริง หรือ ขาดความยอมรับความเป็นจริงอย่างตรงไปตรงมา หรือกล่าวเรียกอีกอย่างว่า ไม่ซื่อสัตย์ต่อความเป็นจริงนั่นเอง เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ชนส่วนมากจึงมักใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยปัญหาความเดือดเนื้อร้อนใจ ไม่เคยพบคำตอบ หรือทางออก ที่เป็นที่สิ้นสุดแห่งปัญหาตนอย่างแท้จริงเลย จนเวลาสุดท้ายของชีวิตมาถึง ส่วนมากก็ยังไม่สามารถสำเหนียก ว่าสิ่งที่มุ่งแสวงหามาตลอดทั้งชีวิตตนนั้น ไม่นำไปสู่คำตอบ หรือ ทางออกที่ถูกต้องเลย แม้แต่น้อย


ท่ามกลางความมืดมิดแห่งความหวาดกลัว อย่ามัวเสียเวลาเสียโอกาสด้วยการปล่อยให้ความหวาดกลัวครอบงำสติจิตใจตน ควรแน่วแน่จ้องมองเพ่งพิจจารณาให้ถึงก้นบึ้งที่สุดแห่งความมืดมิดอันน่าหวาดกลัวเหล่านั้นไปจนถึงที่สุด เพื่อที่จะสามารถล่วงรู้สภาพความเป็นจริงทั้งหมดของปัญหา หากปฏิบัติเช่นนี้ได้อย่างแท้จริงแล้ว ความจริงย่อมปรากฏ หนทางย่อมปรากฏ คำตอบที่แท้จริงย่อมปรากฏ


 4 
 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2012, 02:59:12 PM 
เริ่มโดย zen - กระทู้ล่าสุด โดย zen
14 ตุลาคม 2555
14 October 2012

 5 
 เมื่อ: สิงหาคม 07, 2012, 09:20:39 PM 
เริ่มโดย zen - กระทู้ล่าสุด โดย zen
Cancelled

ยกเลิก


 6 
 เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2012, 11:42:29 PM 
เริ่มโดย zen - กระทู้ล่าสุด โดย zen
Sunday 22 July 2012
วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม 2555

 7 
 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2012, 11:04:20 PM 
เริ่มโดย zen - กระทู้ล่าสุด โดย zen
Sunday 27 May 2012
อาทิตย์ 27 พฤษภาคม ๒๕๕๕


 8 
 เมื่อ: เมษายน 16, 2012, 02:48:02 PM 
เริ่มโดย zen - กระทู้ล่าสุด โดย zen


          วัตถุกาม เช่น วัตถุ บุคคล ฯลฯ ทั้งหลาย ที่ตนพอใจ ย่อมยังให้เกิด กามตัณหา
          สภาพ หรือความเป็นไป ที่ตนยินดี ย่อมยังให้เกิด ภวตัณหา
          สภาพ หรือความเป็นไป ที่ตนขัดเคืองใจ ย่อมยังให้เกิด วิภวตัณหา

          ตัณหา ย่อมเป็นไปเพื่อความทะยาน
          ปัญญา ย่อมเป็นไปเพื่อความหยุด
          ผู้ยังไม่รู้จักหยุด ถึงแม้จะรู้หลักการ ถ้อยคำธรรมะมากมายสักเพียงใดก็ตาม ย่อมยังเป็นผู้ไม่รู้จักปัญญาอยู่นั่นเอง

          ผู้ยังเขลา ย่อมไม่เห็นได้ว่า ความหยุด จะยังสุขให้เกิดขึ้นแก่จิตใจตนเองได้อย่างไร
          ผู้มีปัญญา ย่อมรู้ชัดความเ็ป็นสุข อันเกิดจาก ความหยุด

          ผู้ไม่มีปัญญา ย่อมใช้ปัญญาตน ไปเพื่อความแสวงหาในสิ่งอันรกรุงรัง เป็นภาระ พอกพูนแก่จิตใจตน
          ผู้มีปัญญาดี ย่อมใช้ปัญญาตน ไปเพื่อความแสวงหาในการกำจัดสิ่งอันรกรุงรัง กำจัดสิ่งอันเป็นภาระ ยังจิตใจตนให้เป็นอิสระ เบิกบาน


 9 
 เมื่อ: มีนาคม 31, 2012, 12:07:24 AM 
เริ่มโดย zen - กระทู้ล่าสุด โดย zen

Sunday 29 April 2012, 2 pm.
วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน 2555 บ่าย 2 โมง

 10 
 เมื่อ: มีนาคม 16, 2012, 02:45:26 PM 
เริ่มโดย admin - กระทู้ล่าสุด โดย zen

http://audio.palungjit.com/f10/%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%96%E0%B8%B5-%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%96%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2-%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B9%8C-%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%AA-3260.html

หน้า: [1] 2 3 ... 10


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.14 | SMF © 2006-2008, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 1.039 วินาที กับ 15 คำสั่ง