ข่าว:
SMF - Just Installed!
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
กระดานธรรมะ
ข้อมูลสาระธรรม และคำสอน
ธรรมะ โดย ท่านวสันต์
ความคิด ไม่ใช่ จิต
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
หน้า:
[
1
]
ผู้เขียน
หัวข้อ: ความคิด ไม่ใช่ จิต (อ่าน 45036 ครั้ง)
zen
Administrator
Sr. Member
ออฟไลน์
กระทู้: 351
ความคิด ไม่ใช่ จิต
«
เมื่อ:
กรกฎาคม 22, 2008, 05:04:03 PM »
ความลับ...ความจริง
เข้าใจว่าความคิดเป็นตัวตน มีตัวตนสิงสถิตย์อยู่ในร่างกายนี้
ความลับ...ความคิดไม่ใช่ตัวตน ไม่มีตัวตนสิงสถิตย์อยู่ในร่างกายนี้
"ความทุกข์" เกิดจากการยึดมั่นถือมั่น ในความคิดในอารมณ์ ว่าเป็นเรา เป็นตัวตนของเรา
"การพ้นไปจากความทุกข์" คือการไม่ยึดมั่น ไม่ถือมั่น ในความคิด ในอารมณ์ มองเห็นและเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งว่า
ความคิดและอารมณ์ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ตัวตนของเราจนหมดสิ้นความสงสัย ในความคิดในอารมณ์ทั้งปวง...
มรรคองค์แปด คือธรรมเป็นเครื่องประกอบในการดำรงชีวิตอยู่กับโลก อย่างสันติสุขตลอดกาล
ตราบจนอินทรีย์แตกย่อยสลายไปในที่สุด...
เรากล่าวว่า เพราะไม่กำหนดรู้ใน สังสารขันธ์ เป็นเหตุแห่งคำถามนี้
ก็บุคคลส่วนมาก ไม่รู้จักสังสารนี้ จึงยากที่จะเข้าใจปัญหานี้
ความสำคัญว่า จิตนี้ คิดอยู่ ความเห็นเป็นความเห็นไม่แยบคาย
เรากล่าวว่าจิต เป็นสิ่งแห่งการจำไว้
สังขารย่อมมีก่อน ความคิด คือ สังขาร เมื่อมีสังขารเป็นเหตุแล้ว ความทรงจำจึงปรากฏ
เปรียบดังควานช้าง เมื่อเห็นช้างที่ตนเลี้ยงไว้แล้ว จะเข้าไปจับสัมผัสด้วยกายเลย ก็หามิได้ ย่อมต้องอาศัยเหตุ คือ สังขาร มีสภาพ คือ อาลัย ผูกพัน รักใคร่ รังเกียจ กำหนัด เป็นการตรึกก่อน จึงจะจำได้ว่า นั่นช้างที่ตนต้องนำไปทำการงาน
การที่คนบางคนรับรู้แล้ว ไม่ขยับกายมาใกล้ของที่เคยเป็นที่รัก ไม่ปรารภขวนขวาย ก็เพราะ สังขารขันธ์ ส่วนนั้นสิ้นไป ก็เหลือเพียงบางส่วน คือ ความกำหนัด ในการกลืน เคี้ยวเดิม เป็นต้นเท่านั้น กายเขาพึงตั้งอยู่ได้ แต่ก็เหมือนคนนอนนิ่ง
คนส่วนมาก ผู้ไม่บรรลุโคตรภูญาณ ย่อมยากทวนกระแสธรรม ปฏิจจสมุปบาทธรรม นั่นได้ จะรู้ก็เพียงชื่ออันบัญญัติไว้เท่านั้น
เมื่อไม่สามารถทวนกระแส หาสภาพ ว่า สังขารนี้ มีสภาพสามัญเป็นอย่างไร
นั่นละเป็นเหตุให้คนส่วนมาก เข้าใจว่า การคิด คือ จิต อันเป็นความเห็นไม่แยบคาย
วสันต์ 01 ธ.ค. 47
โคตรภูญาณ
เป็นญาณอันหยุด หรือระงับ จากกระแสโลกธรรม เป็นญาณที่คั่นระหว่างความเป็นปุถุชน กับความเป็นอริยะ
บันทึกการเข้า
จริงอยู่ว่า ผู้บรรลุนิพพาน ย่อมรู้ความเป็นไปของโลก ว่า เป็นเช่นนั้นเอง
แต่ พระนิพพาน ไม่ใช่ธรรมที่เป็นไปเอง หรือเกิดขึ้นเอง หรือไม่มีเจตนา
แท้จริงแล้ว พระนิพพาน มีได้เพราะกำหนด มีได้เพราะเจตนา ในอนัตตา
ดังนี้ ผู้สำคัญว่า นิพพาน จะมีได้เพราะไม่กำหนด หรือเป็นไปเอง จะไม่รู้พระนิพพานธรรมได้เลย
หน้า:
[
1
]
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
คำนำ และคำอธิบายเว็บ
-----------------------------
=> ประกาศสำหรับผู้สมัครสมาชิกใหม่
=> คำนำจากผู้ดูแลระบบ
=> ความเห็นเกี่ยวกับเว็บนี้
-----------------------------
ข้อมูลสาระธรรม และคำสอน
-----------------------------
=> ข้อความพระธรรมเทศนา และคำสอนครูบาอาจารย์
=> ลิ๊งค์ข้อมูล และลิ๊งค์คำสอนครูบาอาจารย์
=> ธรรมะ โดย ท่านวสันต์
-----------------------------
กระดานสนทนาธรรม
-----------------------------
=> ปริยัติธรรม
=> สมถะ และวิปัสสนากรรมฐาน
=> ชี้แจงข้อธรรม
=> สาระธรรมทั่วไป
-----------------------------
ข่าวสารสมาชิก
-----------------------------
=> กำหนดการ (schedule)
=> งานบุญทั่วไป
=> ทักทายสมาชิก
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
Powered by SMF 1.1.14
|
SMF © 2006-2008, Simple Machines LLC
|
Thai language by ThaiSMF
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.099 วินาที กับ 18 คำสั่ง
กำลังโหลด...
Free SMF 1.1.5 Forum Theme
by
Tamuril
. 2008.