ข่าว: SMF - Just Installed!
 
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
+  กระดานธรรมะ
|-+  ข้อมูลสาระธรรม และคำสอน
| |-+  ธรรมะ โดย ท่านวสันต์
| | |-+  ตระหนี่บุญ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ตระหนี่บุญ  (อ่าน 6828 ครั้ง)
zen
Administrator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 351


« เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2008, 12:45:31 AM »

ชาวพุทธไม่สมควรตระหนี่บุญใช่ไหมครับ

กรณีพุทธประวัติ  ผมก็จำชื่อคนไม่ค่อยได้  เมื่อเศรษฐี ก. นิมนต์พระพุทธองค์มาฉัน  เมื่ออนาถปิณฑิกัสสะเศรษฐี ซึ่งเป็นเพื่อนทราบเรื่อง  จึงขอออกค่าอาหารทั้งหมด  หรือขอออกแค่ครึ่งเดียว  แต่ได้รับการปฏิเสธทั้งนั้น  กรณีนี้คงไม่ใช่ตัวอย่างพุทธศาสนิกชนที่ดีใช่ไหมครับ  เขาคิดว่า ถ้าผู้อื่นมาออกเงินให้ทั้งหมด หรือออกให้ครึ่งเดียว  เขาจะไม่ได้บุญ หรือได้บุญครึ่งเดียวหรือไม่
เพราะบุญกิริยาวัตถุ 10 ก็ค่อนข้างบอกไว้ชัดเจน
๖. ปัตติทานมัย บุญสำเร็จด้วยการเฉลี่ยส่วนความดีให้ผู้อื่น
ก็วรรณ ๕ ประการนี้ย่อม เป็นแดนแห่งกุศล
๑ วรรณดั่งทองคำ อยู่ทั้งนอกในเป็นอันเดียว คือบุคคลผู้มีอินทรีย์ บริบูรณ์  จริยาบริบูรณ์ คนจำพวกนี้ ไม่ควรทำทาน ไป แต่ควรรับทาน เพราะว่า คนจำพวกอื่นนอกชนนี้ เป็นผู้มีพยาธิ ถ้าชนพวกนี้ ทำทานแล้ว อินทรีย์ ของตนจะเสื่อม หาได้เจริญไม่ ก็คนนี้ชื่อ พราหม์ ก็ดี สมณะก็ดี ชื่อว่า เป็นสมณะโดยธรรมไม่ใช่โดยสมมุติ
๒ วรรณดั่งทองแดงหุ้มทอง คือบุคคลผู้มี พยาธิภายใน แต่พอมีกำลังปัญญาดี แต่ภายนอกจริยาบริบูรณ์ หรือ กามคุณบริบูรณ์ ย่อมถึงการเคารพแห่งชนพวกอื่นที่ต่ำกว่า แต่ชนพวกนี้ ย่อมประกอบด้วยอกุศล บางพวก ถึงแล้วด้วยอำนาจ คนพวกนี้ควรทำกุศลด้วย ธรรม
๓. วรรณดั่งเปลือกไม้แข็ง ไม่มีสิ่งหุ้ม คนในวรรณนี้ มีกำลังปัญญาดี แต่ในบางครั้งขาดแคลนทรัพย์ ถ้าจะทำทานอันมีสหายร่วมกัน ถึงทำทานในกุศลเพื่อจริยา ภายนอก
๔  วรรณดั่งซังข้าวโพด หุ้มด้วยทองหนา คนในวรรณนี้มี ทรัพย์ บริบูรณ์ แต่มีพยาธิภายใน คนในวรรณนี้ ถ้าจะทำทาน ก็สมควรทำทานเพื่อตนเองก่อน เพราะมีภายนอกบริบูรณ์
๕ วรรณ ดั่งผลไม้เน่านอกเน่าใน  หาคุณมิได้ เป็นธรรมดา ที่คนพวกนี้จะทำทานได้ยากยิ่ง คนในวรรณนี้ ควรทำกุศลด้วย การทำจริยาภายนอกคือ ความเคารพก่อน มีคารวะก่อน หาควรให้ทานด้วยทรัพย์





ก็เราพึงรู้ วรรณ ๕ นี้โดยธรรมแล้ว ไม่ใช่โดยจำตามๆกันมา เราจึงกล่าวตำหนิทานในชนบางพวก เพราะทานบางพวกไม่รักษาชาติของเขา หรือไม่ชาติถอยลง ถึงความตายบ้าง เข้าอบายในภายหน้าบ้าง บางพวกทำให้เจริญขึ้น
เราตำหนิความตระหนี่บางอย่าง ไม่ใช่ทุกอย่าง เพราะความตระหนี่บางอย่าง ย่อมรักษาชาติ อินทรีย์ ไว้ได้ ความตระหนี่บางพวกรักษาไว้ไม่ได้



วสันต์  28 ม.ค. 48

บันทึกการเข้า

จริงอยู่ว่า ผู้บรรลุนิพพาน ย่อมรู้ความเป็นไปของโลก ว่า เป็นเช่นนั้นเอง
แต่ พระนิพพาน ไม่ใช่ธรรมที่เป็นไปเอง หรือเกิดขึ้นเอง หรือไม่มีเจตนา
แท้จริงแล้ว พระนิพพาน มีได้เพราะกำหนด มีได้เพราะเจตนา ในอนัตตา
ดังนี้ ผู้สำคัญว่า นิพพาน จะมีได้เพราะไม่กำหนด หรือเป็นไปเอง จะไม่รู้พระนิพพานธรรมได้เลย
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.14 | SMF © 2006-2008, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.044 วินาที กับ 19 คำสั่ง