กระดานธรรมะ

ข้อมูลสาระธรรม และคำสอน => ธรรมะ โดย ท่านวสันต์ => ข้อความที่เริ่มโดย: zen ที่ กรกฎาคม 15, 2008, 04:24:57 PM



หัวข้อ: รู้ว่าโกรธ แต่ทำไมไม่ดับไป
เริ่มหัวข้อโดย: zen ที่ กรกฎาคม 15, 2008, 04:24:57 PM
ทำไมรู้แล้วแต่ไม่ดับไป

ตามรู้สิ่งที่เกิดขึ้นกับใจ แต่ทำไมมันยังอยู่คะ  อารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับใจเรา เช่น ดีใจ เสียใจ โกรธ ฯลฯ ที่ท่านผู้รู้แนะนำว่าให้ตามรู้ไปเรื่อยๆ ถ้ารู้แล้วมันจะดับ แต่รู้สึกว่ารู้แล้วไม่ดับน่ะค่ะ เช่น โกรธ รู้ว่าโมโหคนๆ นี้ แต่มันก็ยังไม่หายไปค่ะ มันยังโมโหๆๆๆ อยู่ไม่เลิก จนลืมดูไปมีเรื่องอื่นให้คิดแทนจนมารู้ตัวอีกทีไม่รู้ว่า หายโกรธไปตั้งแต่เมื่อไหร่  ไม่ทราบว่า “ดู” ผิดตรงไหนคะ รบกวนผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยค่ะ



เราไม่กล่าวว่า บุคคลจะพึงละความโกธร ความยินดี ความเสียใจ ด้วยการเพ่งพินิจในสิ่งที่โกรธ เพ่งพินิจในสิ่งที่ยินดี เพ่งพินิจในสิ่งที่เสียใจ
เพราะความไม่กำหนดใน ทุกข์ ทุกขสมุทัย นิโรธ นิโรธปฏิปทา ความเห็นดังคำถามจึงมี

ทุกข์ นี้ละเกิดเพราะไม่นมัสสิการ  ย่อมเป็น ทุกข์
ก็เธอเกิดความยินดี เสียใจ เธอไม่กำหนดว่า เราควรอยู่ ควรมีวาจาอย่างไร กิริยาอย่างไร สำรวมอย่างไร นี้ย่อมเป็นทุกขสมุทัย ความไม่ทราบใน ทุกขสมุทัย ก็เกิดความสงสัย ร้อนใจ นี้ละ คือทุกข์ของเธอ เมื่อเธอรู้ชัดในทุกขสมุทัยว่าอย่างนี้ ทุกข์ ว่าอย่างนี้ ความรู้ชัดในทุกขสมุทัยและทุกข์ ชื่อว่า นิโรธ เมื่อเธอรู้ชัดแล้วในนิโรธ เธอจงนมัสสิการในนิโรธ ความนมัสสิการในนิโรธ คือยอมรับว่า ความสำรวมมีอยู่ แต่เรายังไม่ทำ เราจะทำดังนี้ ความว่า วาจาข้อนี้ควรมี แต่เรายังไม่ทำ เราจะทำดังนี้

เรากล่าวว่าบุคคลพึงถูกความโกธรจากผู้อื่น ควรบรรเทาความโกธรเสีย ด้วยพิจารณาว่า ผู้ที่โกธร มีความอ่อนแอ ความคับแค้นใดหนอ เมื่อพิจารณาความอ่อนแอ ย่อมนมัสสิการความโกธรได้

เมื่อบุคคลพึงยินดีเรื่องใด ย่อมพิจารณาการสำรวมกาย และวาจา ย่อมละความยินดีได้
เมื่อบุคคลพึงถูกเบียดเบียน เมื่อเธอรู้ว่า ผู้คนเหล่านั้นมีที่พึ่งแล้วย่อมละความเบียดเบียนได้ เธอย่อมพิจารณาความว่า บุคคลอื่นเหล่านั้นต้องการ ที่พึ่งใดหนอ เราควรทำกาย วาจา ใจ ให้เป็นที่พึ่งของเขาได้อย่างไร



วสันต์  31 ส.ค. 47



นมัสสิการ คือ  พิจารณา โดยแยบคาย