หัวข้อ: วิทยาศาสตร์อธิบายศาสนาพุทธได้ไหม เริ่มหัวข้อโดย: zen ที่ กรกฎาคม 30, 2008, 02:43:03 PM ใคร่ขอถามผู้ศรัทธา
เชื่อว่าวิทยาศาสตร์อธิบายปรากฏการณ์แห่งพุทธได้หรือไม่? จากความคิดตลอดมาของตัวผม เชื่อว่านรกสวรรค์ ไม่มีจริง มันเป็นเพียงมายาของวิญญาณ ผมเชื่อว่า เมื่อเรากระทำสิ่งใดๆด้วยเจตนา ความรู้สึกนึกคิดของผู้ที่ได้รับผลของการกระทำนั้นจะสร้างเจตจำนงนำทางให้แก่วิญญาณของเรา ไม่ว่าจะชั่วร้ายหรือดี การกระทำของเรานั้นก็ส่งผลต่อชีวิตที่มีจิตใจ อย่างน้อยๆก็จะเป็นตัวของเราเองที่จะรับมันนั้น และเจตจำนงนั้นก็คงจะเป็นสิ่งที่เรียกว่าผลบุญผลบาป และเวรกรรม และนั่นหมายถึง หากเราทำดี คนที่ได้รับผลดีๆก็จะอวยพรแก่ผู้ทำนั้น แล้วพรนั้นก็จะเป็นสิ่งอำนวยอนาคตของผู้ที่มี ป้องกันเรื่องไม่ดี และมีชีวิตอย่างมีความสุข เพราะวิญญาณของเราที่รับคำอวยพร แม้เราจะไม่รู้สึกตัว แต่จิตใต้สำนึกก็จะสร้างความอบอุ่นใจและมีความสุข และในทางกลับกัน เมื่อเราทำชั่ว สิ่งที่ผู้ที่รับผลชั่วจะให้ได้คือคำสาปแช่ง วิญญาณที่รับคำสาปแช่งก็จะไม่เป็นสุขจากส่วนลึกโดยไม่รู้สึกตัว นำทางเราไปยังอนาคตที่มืดมน เพราะวิญญาณรับรู้ทุกสิ่งอย่าง มีความยิ่งใหญ่เกินคาดเดา หากเปรียบกับสมองกลแล้ว วิญญาณก็เหมือนสมองกลนับพันเครื่องรวมกัน แล้วเมื่อในเอกภพเรามีวิญญาณที่เราสัมผัสไม่ได้นับไม่ถ้วน มากกว่าแสนล้าน มากกว่าล้านล้านล้าน เมื่อวิญญาณมีพลังในการรับรู้และคิดถึงขนาดนั้น แม้แต่อนาคต วิญญาณก็รับรู้ได้ ดังนั้น เมื่อวิญญาณรับคำสาปแช่งหรือคำอวยพรไป คำเหล่านั้นมันก็จะทำหน้าที่เพื่อให้ผู้นั้นได้รับผลกรรมที่เหมาะสม และเมื่อเราตายไป วิญญาณของเราก็จะต้องมาอยู่ร่วมกับเหล่าวิญญาณทั้งหลายในเอกภพ เจตจำนงที่เรารับมานั้นก็จะนำเราไปยังที่ๆเหมาะสม ในโลกแห่งเหล่าวิญญาณ ให้เราได้เดินทางไปยังที่ๆผลกรรมที่วิญญาณแบกไว้จะชักนำไป ในสถาณที่ที่วิญญาณนั้นสมควรไป เมื่อวิญญาณที่มีความเชื่อเดียวกัน ได้มาอยู่ด้วยกัน ถูกผลกรรมเจตจำนงที่แบกไว้สร้างภาพให้แก่วิญญาณนั้น มันจึงได้เป็นนรกสวรรค์ของแต่ละคน ผู้ที่รับคำสาปแช่ง ก็จะถูกทำร้ายตามคำนั้น ผู้ที่ได้รับการอวยพร ก็จะได้มีความสุขตามนั้น เพราะในโลกของวิญญาณ ความคิดคือความเป็นจริง และนี่คือเหตุผลว่า ทำไมศาสนาจึงสอนให้คนอย่าทำความทุกข์ให้แก่ตนเองและผู้อื่น และจงยังความสุขแก่ผู้อื่นและตัวเอง นี่คือสมมุติฐานคร่าวๆของผมครับ ในฐานะของผู้ยึดหลักคำสอนของศาสนาแล้ว ผมไม่คิดว่า ศาสดาของศาสนาพุทธเรา จะโกหกได้ แต่ในฐานะของผู้ที่ต้องการไขความจริงของจักรวาล ก็ไม่อาจจะยอมรับบางสิ่งที่จะดูไม่มีเหตุผล แต่ในฐานะของคนช่างฝัน ก็คงจะพูดไม่ได้ว่า มีสิ่งที่เป็นไปไม่ได้โดยที่ไม่มีเหตุผลรองรับอยู่บนโลกนี้ ผมเชื่อว่า ไม่ว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์(ผมเป็นเพียงผู้ที่อยากเป็น) ต้องกระทำ คือ อธิบายออกมาว่าทำไม ขณะนี้ ผมต้องการความเห็นจากผู้ที่ศรัทธาในศาสนาครับ ในฐานะของศาสนาพุทธเรา ข้อที่ว่า ทุกสิ่งมีเหตุ จึงมีผล ทุกคำถาม มีคำตอบอยู่แล้ว พระศาสดาเพียงไขคำตอบของสิ่งที่เราควรรู้มากที่สุดให้กับเรา เพียงแต่นักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย และผู้ที่อยากเป็นคนอื่นๆรวมทั้งผม อยากจะไขความจริงอื่นๆนอกจากที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ออกมาให้หมดสิ้น หากแต่พวกเราไม่อาจมีอัจฉริยภาพได้เท่าเทียมท่าน เราจึงต้องมีการปรึกษากันเพื่อความจริงนั้น หากแต่ผมไม่อาจปรึกษาใครได้ จึงใคร่ขอความกรุณาด้วยครับ ปกติ วิชาของคนส่วนมากในโลก มีภาษาเป็นบัญญัติ ของวิชาทั้งหลายเหล่านั้น อันมี วิชาเลข วิชาภาษา เป็นต้น ก็คนส่วนมาก ศึกษาวิชาเหล่านั้น พยายามสรุปปัญหาทั้งหลายมาก ลงในวิชาหนึ่งส่วนเดียว มีวิชาเลข หรือ ดาราศาสตร์ หรือวิชาใด ของวิชานั้นส่วนเดียว แท้จริงสิ่งต่าง ๆ ไม่ได้เป็นไปในวิชาเดียว นักคิดนักค้นคว้าส่วนมากเป็นอย่างนี้ละ จึงพิสูจน์ธรรมต่างๆได้ยาก แท้จริงธรรมส่วนมากในโลก มี รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส มโน เป็นไปในอันเดียว เป็นไปพร้อมกัน วสันต์ 28 ต.ค. 47 |