กระดานธรรมะ

ข้อมูลสาระธรรม และคำสอน => ธรรมะ โดย ท่านวสันต์ => ข้อความที่เริ่มโดย: zen ที่ กรกฎาคม 29, 2008, 12:13:50 PM



หัวข้อ: ทำแบบนี้ ได้บาป หรือได้บุญ?
เริ่มหัวข้อโดย: zen ที่ กรกฎาคม 29, 2008, 12:13:50 PM
ความฉลาดทางโลก กับทางธรรม

หลายครั้งที่รู้สึกว่า อะไรที่สมเหตุสมผล หรือเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดทางโลก กลับดูไม่ฉลาดในทางธรรม ยกตัวอย่างเช่น เคยมีรุ่นน้องที่ทำงานเก่า ซึ่งไม่ค่อยได้พบกัน โทรมาขอยืมเงินหมื่นกว่าบาท เมื่อสอบถามข้อมูล ก็แน่ใจว่า ถ้าให้ยืมไปก็คงไม่ได้คืน เพราะเขาใช้วงเงินบัตรเครดิตต่าง ๆ เต็มหมดแล้ว และเสนอเงื่อนไขว่า จะให้ยึดบัตร ATM + จ่ายดอกเบี้ยให้ด้วยตามอัตราบัตรเครดิตเลย หลังจากคิดดู 2 วัน เราก็บอกเขาว่า เราคงให้เขายืมไม่ได้ เพราะรู้ว่าจะไม่ได้คืน เอาเป็นว่าจะให้เท่าที่จะให้ได้ โดยไม่ต้องมาคืน เราโอนเงินให้เขาไป 1500 บาท แต่เขาไม่เคยโทรมาอีกเลย และไม่เคยขอบคุณเราด้วย (อาจไม่พอใจที่เราไม่ให้ยืมตามจำนวนที่ขอ) ก่อนหน้านี้ประมาณครึ่งปี แฟนเราก็ให้ลูกน้องเก่ายืมเงินไป 4-5000 บาท บอกว่าจะยืมแค่เดือนเดียว จากนั้นไม่เคยติดต่อมาอีกเลย ทางเราก็ไม่ทวงถาม เขาพูดแค่ว่า "ก็ดี จะได้เลิกคบกันไป"
เรื่องแบบนี้มีเกิดขึ่นบ่อย ๆ ถ้าคิดด้วยเหตุผลทางโลก การตัดสินใจแบบนี้ก็ดูฉลาดดี แต่เวลาคิดในทางธรรม เกี่ยวกับการให้, ดูเหมือนเราทำไม่ถูกยังไงก็ไม่รู้
บางครั้งสับสนเรื่องการทำความดีในทางธรรม แต่กลับดูเห็นแก่ตัวในทางโลก มีรุ่นพี่คนหนึ่ง เป็นคนธรรมะธรรโม นิสัยดี เขาแนะนำเพื่อนเขา 2 คนพี่น้อง ให้มาทำงานที่บริษัทเดียวกับแฟนเรา ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขาย แนะนำว่าเก่งมาก และต้องรับเข้าทำงานทั้ง 2 คนเพราะเป็นทีมเดียวกัน บริษัทกำลังขยายงานตลาดต่างจังหวัด ปรากฏว่าทำงานได้ 2-3 เดือน จึงทราบว่าทั้งโกง ทั้งขี้เกียจ ทำบริษัทเสียหายไปหลายแสนบาท ทราบจากแฟนรุ่นพี่คนนั้นว่า เพื่อน 2 รายนี้ทำแสบไว้หลายที่ แต่รุ่นพี่คนนี้ ให้โอกาสคนไม่สิ้นสุด จึงยื่นมือเข้าช่วยทุกครั้งที่ 2 คนนี้มาหา
คำถามคือ รุ่นพี่คนนี้ได้บาป หรือได้บุญ ?  ถ้าเราให้คนเลว "มีโอกาสกลับตัว" แต่เขาใช้โอกาสนั้น หลอกลวง ทำร้ายคนบริสุทธิ์ แล้วเรายัง "ให้โอกาส" เขาครั้งแล้วครั้งเล่า ผู้ให้โอกาส จะนับเป็นคนดี หรือเป็นคนเห็นแก่ตัว หวังแต่กุศลจากการให้ของตนเอง ไม่คิดถึงผลกระทบที่เกิดกับคนรอบข้าง หรือไม่ ?
หลังจากนั้น ทราบมาว่า พี่เขาฝากสองคนนั้น กับเจ้าของบริษัทที่พี่เขาทำงานอยู่อีก !!
(เราไม่เข้าใจเขาเลย)  แต่ทำงานได้ไม่ถึงเดือน ก็หายไป เพราะทำงานไม่เป็นจริง ๆ...





เราจะไม่กล่าวว่า การให้ของผู้นั้นเป็นทาน เพราะสิ่งที่เขาให้ไม่พึงเป็นของตน
เปรียบเหมือนทาสรับใช้ นำคนของตนเข้าไปในบ้านนายของตน ลักลอบอยู่ อย่างนั้นพึงนับ ได้ว่า เป็นโจร



วสันต์  20 ก.ค. 48