กระดานธรรมะ

กระดานสนทนาธรรม => ชี้แจงข้อธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: zen ที่ สิงหาคม 08, 2008, 01:50:00 PM



หัวข้อ: พระนิพพานเป็นของง่าย ?
เริ่มหัวข้อโดย: zen ที่ สิงหาคม 08, 2008, 01:50:00 PM
          ในปัจจุบันนี้ มีคำสอนมากมาย หลายแนวทาง บางทีก็กล่าวแสดงเป็นปริยาย ว่าตนบรรลุนิพพานแล้ว เช่นการเกริ่นนำว่า ต่อไปนี้ จะแสดงวิธีสู่ความหลุดพ้น หรือพระนิพพาน หรือบางทีก็กล่าวเชิงว่า หากทำด้วยวิธีอย่างนั้น อย่างนี้ ตามเราโดยตรง ไม่สนคำสอนอื่น ก็จะบรรลุพระนิพพานได้อย่างง่ายดาย หรือรวดเร็ว หรือโดยสะดวก หรือโดยลัดสั้นตัดตรงที่สุด ทั้งที่พระพุทธองค์มิได้ทรงตรัสไว้เลย ว่าจะมีวิธีใดวิธีหนึ่ง ที่จะดีที่สุดเสมอไป ดังที่บางสำนักพยายามอวดอ้างตนอยู่ (หากมีธรรมที่สำคัญถึงเพียงนี้จริง พระพุทธองค์ก็น่าจะตรัสไว้แล้ว ด้วยพระเมตตา แต่ก็เป็นความจริงว่า พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมอันไม่เนิ่นช้า อันจะนำพาบุคคลให้เข้าถึงธรรมได้เที่ยงตรง แต่ธรรมดังกล่าวนี้ ท่านก็แสดงด้วยวิธีการ หรือโดยอุบาย ที่แตกต่างกันไปตามบุคคล มิใช่แสดงอุบายเดียว แล้วกล่าวว่า เป็นหนทางไม่เนิ่นช้าสำหรับทุกสรรพสัตว์ หรือสำหรับคนส่วนใหญ่) หรือบางทีก็อ้างว่า ถ้าปฏิบัติตามเราแล้ว จะเห็นว่า พระนิพพานง่าย เป็นไปได้มาก หรือจะรู้สึกได้ว่า พระนิพพานอยู่ใกล้ ฯลฯ เป็นต้น ทั้งๆที่ การบรรลุพระนิพพานนั้น เป็นธรรมที่บุคคลผู้เข้าถึง ย่อมรู้ได้ ผู้ยังเข้าไม่ถึง ย่อมไม่อาจรู้ได้ เป็นธรรมดา ไม่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกว่าน่าจะใกล้ หรือน่าจะไกลแต่อย่างใดเลย ดังนั้น ทิฏฐิ ว่า พระนิพพานอยู่ใกล้ หรือ รู้สึกได้ว่าพระนิพพานอยู่ใกล้ นั้น ย่อมเป็นเพียงการคาดเดาอย่างเลื่อนลอยเท่านั้น ไม่มีสภาพความเป็นจริงรองรับ หากอาจารย์ใด จะประกาศเช่นนั้น ย่อมต้องสามารถรับรองได้ว่า ผลนั้น จะเกิดแก่ทุกคนผู้สดับคำสอนนั้นอยู่ มิเช่นนั้น จะเป็นธรรมอันไม่บริสุทธิ์ หรืออาจเป็นการอวดอุตริมนุสธรรมที่ไม่มีในตน หรืออาจกระทั่งว่ากลายเป็น สัทธรรมปฏิรูป ไปได้

          อีกประการหนึ่ง ที่อาจเป็นปัญหาได้ก็คือ การพยายามบอกแก่คนทั่วไปว่า พระนิพพาน ไม่ใช่ของยาก แต่เป็นของเรียบง่าย ใครๆก็เข้าถึงได้ ถ้าปฏิบัติตามแนวทางของผู้ประกาศ บรรลุได้แม้อยู่ในชีวิตประจำวัน ไม่มีความจำเป็นใดๆจะต้องบำเพ็ญเพียรอย่างอุกฤษฏ์ ซึ่งเป็นการกล่าวโดยไม่บริสุทธิ์ เพราะฐานะเช่นนี้ มีได้แก่บุคคลจำพวกที่มีอินทรีย์แก่กล้า มีปัญญาเฉียบแหลม และมีธุลีในจักษุเบาบาง ไม่ใช่ฐานะแก่คนส่วนใหญ่ หรือแก่คนทั่วๆไป ก็จึงอาจเป็นเหตุให้คนส่วนใหญ่ ที่ต้องเพียรขวนขวายอย่างมากจึงจะเข้าถึงธรรมได้ กลับไปเข้าใจว่า ไม่ต้องเพียร ไม่ต้องอดทนมากนัก ก็มีโอกาสบรรลุได้ คนจำนวนมาก ก็หลงเชื่อ เพราะถูกใจตน

          ก็จริงอยู่ว่า พระนิพพาน เป็นธรรมที่บุคคลขวนขวายได้ เพียรได้ แต่ผู้ที่จะเข้าถึงแม้เพียงโสดาบัน ก็หาได้ยากในโลกปัจจุบัน เพราะเป็นธรรมที่สรรพสัตว์เห็นได้ยาก เป็นธรรมที่พ้นจากวิสัยทั่วไปของโลก เป็นธรรมอยู่นอกเหนืออายตนะทั้ง ๖ ก็หมายความว่า เป็นธรรมประณีตที่ไม่ปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ ต้องอาศัยญาณทัศนะอันบริสุทธิ์ อันเป็นของยวดยิ่ง เท่านั้น จะรู้เห็นได้ จึงเข้าถึงได้ยากแก่บุคคลทั่วไป ต้องขัดเกลากิเลสนิวรณ์ออกจากจิตเป็นจำนวนมาก เพราะบุคคลส่วนใหญ่ในโลก วนเวียนมานาน สั่งสมอนุสัย หรือความเคยชินกับกิเลสตัณหามานานแสนนาน ย่อมมิใช่ง่ายที่จะชำระออกทั้งหมดภายในชาติเดียว หรือภายในไม่กี่ชาติ จึงต้องเพียรอย่างอุกฤษฏ์ จึงจะเป็นไปได้

          แต่อย่างไรก็ดี ผู้มุ่งมั่นยินดีในพระนิพพานอย่างมั่นคง ก็จะเข้าถึงได้ตามกาล เมื่อสั่งสมปัจจัยพรั่งพร้อมแล้ว อีกประการหนึ่ง ผู้มีความเคารพขวนขวายในธรรม หมั่นปฏิบัติตนเพื่อทวนกระแสของโลกธรรม ไม่ทำตนให้เสื่อม ให้จมลง ถึงแม้ยังไม่บรรลุสัทธรรมอันบริสุทธิ์  ก็พึงหวังได้ในสุขคติภพ จนกระทั่งถึงฟากฝั่งพระนิพพานได้ ในที่สุด

          ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ มิใช่เพื่อให้ผู้ใฝ่ธรรมเกิดความท้อแท้ แต่ เพื่อให้เพียรไปในหนทางที่พึงเป็นไปได้มากกว่า ที่จะบรรลุธรรม